วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Nanaimo Bar: นาไนโม่บาร์ ขนมหวานสัญชาติแคเนเดียน

มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนถามเข้ามาถึงขนมที่ไม่ต้องใช้เตาอบ
วันนี้ก็ขอเอาเมนูนี้ฝากแล้วกันนะคะ
พอดีเกิดอยากกินอะไรที่แบบมีรสมินท์และช็อคโกแลต
จริงๆอยากทำไอศครีมรสช็อคโกแลตมินท์นะแต่ว่าอุปกรณ์ยังไม่ค่อยพร้อม
เก็บทดไว้หนึ่งเมนูก่อน วันไหนพร้อมแล้วจะเอามาฝาก
ส่วนวันนี้ขอเสนอขนมหวานอิมพอร์ต(สูตร)มาจากแคนาดา
น่าจะทำเดือนที่แล้วเนอะ 1st July วันชาติแคนาดาพอดี


ขนมวันนี้มีชื่อว่า Nanaimo Bar
ชื่อแปลกๆเนอะ งั้นขอเล่าเกร็ดเล็กน้อยย่อๆก่อนแล้วกัน
ต้นกำเนิดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มันมาป๊อปตอนที่
แม่บ้านคนนึงชื่อ Mabel Jenkins อาศัยอยู่แถวอ่าว Cowichan ในแคนาดา
ชีตีพิมพ์ในคู่มือทำอาหารของสถาบัน Ladysmith and Cowichan Women
จากนั้นขนมนี้ก็กลายเป็นขนมยอดนิยม
ในบรรดาร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟที่อยู่บนถนนสายการค้าชื่อ Nanaimo ก็พากันทำขาย
โดยเฉพาะพวกนักท่องเที่ยวที่มาจากสหรัฐฯก็ต่างติดใจรสชาติของมัน
ก็เลยได้ชื่อว่า Nanaimo Bar มาจากชื่อถนนนั่นเอง
 ข้อมูลจาก Wikipedia นะคะ

เรามาดูส่วนประกอบพื้นฐานของ Nanaimo Bar ดีกว่า


ตามภาพด้านบนนี้ เราจะแบ่งขนมเป็น 3 ชั้นนะคะ
คือ ส่วนฐาน, ส่วนไส้ และส่วนบนค่ะ

เราเริ่มจากฐานก่อน ฐานจะมีรสชาติออกเค็มๆกรอบ ทำจากมะพร้าวอบกรอบ, ถั่วและแครกเกอร์
ส่วนที่2 คือไส้ ตามสูตรตั้งเดิมจะเป็นรสวนิลาคัสตาร์ดนะคะ สีเหลืองอ่อน แต่เราเอามาปรับ
ส่วนที่3 คือ ช็อคโกแลตกานาชที่ตกแต่งหน้า ทำจากช็อคโกแลตกับเนยค่ะ
ส่วนดีของขนมนี้คือ ไม่มีเตาอบก็ทำได้ค่ะ แถมรสชาติก็อร่อยด้วยแต่ตัวไส้อาจจะหวานไปหน่อย
ยังไงก็ปรับได้ค่ะ

สูตรนี้เป็น Nanaimo Bar ที่เราเอามาปรับสูตร
เพราะส่วนผสมบางอย่างก็หาไม่ได้และเปลี่ยนไส้ตรงกลางให้เป็นรสมินท์
เรามาเตรียมส่วนผสมดังนี้เลยนะคะ
ใช้ถาด 9x9" นะคะ ไม่ต้องปูกระดาษหรือทาอะไรเลย

ส่วนฐาน (Base)
1.  เนยจืดอุณหภูมิห้อง 110 กรัม
2. ผงโกโก้ 30 กรัม 
3. ไอซิ่ง 50 กรัม
4. ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 1 ฟอง
5. วนิลา 1 ช้อนชา
6. แครกเกอร์ 200 กรัม
7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
(ตามสูตรจริงตรงเม็ดมะม่วงฯ เขาจะใส่มะพร้าวกรอบกับวอลนัทนะคะ ใครมีก็ใช้แทนได้)

ส่วนไส้ (Filling)
1. เนยจืดอุณหภูมิห้องหั่นเป็นลูกเต๋า 60 กรัม
2. นมสดรสจืด 3 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ 
(สูตรจริงเขาใช้ผงวนิลาคัสตาร์ดหรือพุดดิ้งนะ แต่เราไม่มี)
4. กลิ่นเปปเปอร์มินท์ 1/2 ช้อนชา
5. ไอซิ่ง 230 กรัม
6. สีเขียว 2 หยด

ส่วนหน้า (Ganache)
1.ช็อคโกแลตเซมิสวีทสับเป็นก้อนเล็กๆ 115 กรัม
2. เนยหั่นเป็นก้อนเล็กๆ 25 กรัม

วิธีทำฐาน
1. เตรียมถาดขนาด 9x9นิ้วนะคะ เช็ดให้แห้งสะอาด
ไม่ต้องทาไขหรือปูกระดาษอะไรเลย อุปกรณ์หลักๆมีแค่ถาดกับตู้เย็นเอง

2. บดแครกเกอร์ให้ละเอียดแบบนี้เลย


3. สับเม็ดมะม่วงหยาบๆ


4. เอาเนยจืดใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ ให้เนยสลายร่างกลายเป็นของเหลว


5.พอเนยละลายแล้ว ใส่ผงโกโก้กับไอซิ่งลงไปคนให้เข้ากัน
เสร็จแล้วยกลงจากเตา


6. ทิ้งไว้ซักพักให้หายร้อนนิดนึง ค่อยใส่วนิลาลงไป


7. จากนั้นเอาโกโก้บัตเตอร์ที่ได้นี้ลงไปคลุกกับแครกเกอร์และเม็ดมะม่วงฯให้เข้ากัน


8. มันจะเหมือนทรายเปียกๆ เช่นนี้ แต่ไม่แฉะนะคะ


9. จากนั้นเทใส่ถาด กดด้วยกำปั้นให้ทั่วถาดและเรียบสม่ำเสมอ
เสร็จแล้วเอาเข้าตู้เย็น 1 ชั่วโมง ให้ฐานเซ็ทตัวแข็งๆ
เราเอาเข้าฟรีซเลย เพราะตู้เย็นด้านล่างเย็นไม่ถึงใจ


รอ 55 นาที ต่อไปมาดู
วิธีทำไส้

1. เอาเนยจืดอุณหภูมิห้องที่อ่อนตัวแล้วตีด้วยความเร็วปานกลาง
ให้ขึ้นฟูเป็นครีม ตีประมาณ 2 นาที


2. จากนั้นใส่ส่วนผสมทั้งหมดที่เหลือลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางให้เข้ากัน
ไอซิ่งมันจะไม่ค่อยละลายเท่าไหร่ ไม่เป็นไรนะคะ
เพราะสูตรเขาเป็นอย่างนี้ แต่ตัวไส้นี่หวานแสบไส้มากค่ะ
เพราะรสหวานจะตัดกับตัวฐานที่เค็มค่ะ


3. หน้าตาไส้ที่ผสมเสร็จแล้ว
แอบเหมือนยาสีฟันอะ 55 ยิ่งเป็นกลิ่นเปปเปอร์มินท์ด้วย
แต่ถ้าเอาไปแปรงฟันก็แมงกินฟันตายเลย หวานขนาดนี้


4. จากนั้นเอาถาดออกจากตู้เย็น
ส่วนฐานแข็งตัวแล้ว เอาไส้โปะหน้า เกลี่ยนให้ทั่วและเรียบนะคะ


5.เอาเข้าตู้เย็นอีก 30 นาทีให้ไส้เซ็ทตัว


ต่อไป รอจนผ่านไป 20 นาที เรามาทำกานาชหรือส่วนหน้ากันนะคะ
ส่วนหน้า

1. เอาหม้อใบเล็ก 1 ใบใส่น้ำประมาณ 1/4 ของหม้อ ให้น้ำเดือด
จากนั้นเอาชามแก้วทนไฟหรือสเตนเลสวางข้างบนหม้อ
เป็นการ double boil ให้ช็อคโกแลตละลาย
ใส่ช็อคโกแลตสับกับเนย คนให้เข้ากันและละลายเหลว
ของเรามันก็ละลายแต่ไม่ได้เหลวเป็นน้ำ หน้าเลยไม่ค่อยเรียบพอเท
แต่เข้มข้นดีนะ


ได้ออกมาเหลวพอเทได้


2. เทใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้เรียบนะคะ แช่ตู้เย็นอีก 30 นาทีให้ช็อคโกแลตแข็งตัว
พอครบเวลา ให้เอาถาดออกมาจากตู้เย็น ทิ้งไว้ซักพัก
เพราะว่าถ้าเอาออกมาแล้วตัดแบ่งเลยจะทำให้ช็อคโกแลตกานาชหักไม่สวย
ส่วนวิธีตัดก็ใช้มีดคมๆตัดเป็นขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัสนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น