โดยส่วนตัวรู้สึกไม่ประทับใจรสชาติ...อย่างแรงงง คือก็เข้าใจเลยว่าไม่ใช่ร้านที่มีเจ้าของอิตาเลียนแท้ๆ ไม่ได้อคติ
แต่เข้าใจว่าคนอิตาเลียนเนี่ย เขาแสนจะ proud เรื่องอาหารประจำชาติ เขาไม่ยอมเสียเกียรติให้โดนด่าว่าทำอาหารไม่เป็นสัปปะรดหรอก
ขอ review (หรือ criticize ดี 555) อาหารที่สั่งมาจากร้านเนี่ยก็ได้แก่
1.) Foie Gras แต่เขาระบุมาว่า chicken liver ก็โอเค ถูไถไปได้ แต่ปรากฏว่าเพื่อนคนนึงลองให้ปลายลิ้นชิมๆ ถึงกะปาขนมปังทิ้งลงจาน
เพราะว่ามันเหม็นคาวมากกกกกก แต่เราก็กินไป2-3 คำแล้วแหละเพราะเสียดาย
2.) Spaghetti alla Carbonara จานนี้หน้าตาดูดีเชียว เสิร์ฟแบบมีแป้งคลุม แต่พอเอาเข้าปาก เฮ้ยไหนอะ? ไหนอะชีส? แป้งข้าวโพดชัดๆผิดหวังมากค่ะ
3.) Parma Ham Pizza ก็ไม่ขี้เหร่ มี parma ham เส้นกลางๆ แต่แป้งเย็นเฉียบ ชีสน้อยเหมือนเดิม จะงกทำไม?
4.) Pork Lasagna อารมณ์เสียค่ะ นึกว่ากินแกงกะหรี่อยู่ซะอีก
พอเจออย่างงี้เข้า เลยอารมณ์เสียมากมาย ก็เลยลองทำกินเองแม่งเลย ไม่ง้อแล้ว ....
สูตรนี่ก็ได้มาจาก giallozafferano.it จากอิตาเลียนแท้ๆ ถ้าอยากลองทำอาหารอิตาเลียนแนะนำเว็บนี้เพราะเป็นสูตรต้นตำรับแท้ๆ แต่ต้องแปลเอาหน่อย
วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี บริษัทหยุดเพราะม๊อบเสื้อแดงป่วน เลยมีเวลาเข้าครัว
การทำลาซานญ่า (Lasagne ภาษาอิตาเลียนเรียกว่า "ลาซานเญ่" ) ใช้เวลานานพอสมควรเพราะ
ประกอบไปด้วยซอส 2 ซอสซึ่งก็คือ Ragu' alla Bolognese และ Besciamella (Bechamel)
เริ่มแรก เราต้องเตรียมส่วนประกอบในการทำซอส Ragu' ก่อน ซึ่งแฟนอาหารอิตาเลียนคงจะทราบกันดีว่าเป็นสูตรซอสมะเขือเทศที่มีต้นกำเนิดจากแคว้นBologna ซึ่งเป็นแคว้นของอิตาลีที่มีอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อหลายอย่าง เช่น Mortadella (ที่เมืองไทยเรียกกันติดปากว่า ไส้กรอกโบโลน่า)
ส่วนผสมของซอส Ragu' alla Bolognese
1.) เนื้อหมู + เนื้อวัว + เนื้อติดมัน2.) แครอท + หัวหอม + celery สับละเอียด
3.) น้ำซุป
4.) เนื้อมะเขือเทศเข้มข้น
5.) ไวน์แดงอิตาเลียน (ทำอาหารอิตาเลียนก็ควรใช้ของเขา)
6.) นมสด
7.) น้ำมันมะกอก extra virgin
8.) เกลือ + พริกไทย
9.) เนยละลาย
10.) ชีส Parmigiano Reggiano (แนะนำให้ซื้อแบบเป็นก้อนแล้วมาขูดเอง)
(ปริมาณต้องลองกะเอาตามจำนวนคนที่รับประทาน)
วิธีเตรียม
1.) ตั้งไฟปานกลาง นำเนยและน้ำมันมะกอกมาละลาย พอละลายเข้ากัน นำผักมาใส่ คนไปเรื่อยๆจนเป็นสีเหลืองทอง
2.) นำเนื้อติดมันลงมาทอด สักพักนำเนื้อหมูและเนื้อวัวตามลงมา ตั้งไฟอ่อนเคี้ยวไปเรื่อยๆประมาณ 30 นาทีจนเป็นสีน้ำตาลและงวด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
3.) ใส่ไวน์แดงลงไป เคี้ยวๆให้เข้ากับเนื้อ จนน้ำเริ่มแห้ง จากนั้นใส่น้ำซุปผสมเนื้อมะเขือเทศเข้มข้น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นใส่นมลงไป คนให้เข้ากัน และชีส Parmigiano Reggianoนำใส่ถ้วยพักไว้
เสร็จแล้ว เรามาทำซอส Besciamella หรือ Bechamel หรือ White Sauce นั่นเอง ต่อ ซอสนี้มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส แต่เราจะพบในส่วนผสมของอาหารอิตาเลียน เช่น Cannelloni และ Lasagne
ส่วนผสม Besciamella
1.) นมเนย 2.) แป้งทำซอสขาว 3.) เนย 4.) เกลือ พริกไทย 5.) Nutmeg จันทน์เทศขูด
วิธีทำ
1.) ตั้งไฟอ่อนๆ นำเนยลงไปละลายในหม้อให้เป็นน้ำ จากนั้นใส่แป้งลงไปคนจนกลายครีมเป็นสีเหลือง
2.) ใส่นมลงไป เคี้ยวให้เข้ากัน จนแป้งสุก ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และจันทน์เทศ นำใส่ถ้วยทิ้งพักไว้
ถึงเวลาประกอบร่างลาซานญ่าแล้ว เตรียมส่วนผสมดังนี้
1.) แผ่นลาซานญ่าที่ต้มสุก
2.) ซอส Ragu' alla Bolognese
3.) ซอส Besciamella
4.) ชีส Parmigiano Reggiano
5.) ชีส Mozzarella
วิธีทำ
1.) นำถาดอบ (แนะนำทรงสี่เหลี่ยม แต่เราไม่มีเลยต้องตัดเส้นตามทรงถาดเอา) ทาน้ำมันมะกอกให้ทั่ว จากนั้นราดซอส Ragu' ชั้นแรกเพื่อไม่ให้ไหม้
2.) ปูแผ่นลาซานญ่าให้ทั่วถาดอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นทาซอส Besciamella ให้เต็มและตามด้วยด้วยซอส Ragu' และโรยชีส Parmigiano Reggiano ให้ทั่ว
3.) ทำตามขั้นตอนที่ 2 เหมือนเดิม
4.) โรยหน้าด้วย Mozzarella เพื่อเพิ่มความยืด
5.) นำไปอบที่ความร้อน 160 องศา นาน 1 ชั่วโมง พอครบกำหนดแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็นเองประมาณ 20นาที แล้วค่อยตัดแบ่ง
รับประทานคู่กับไวน์แดงนี่สุดๆเลยค่ะ เห็นมั้ยลาซานญ่าอิตาเลียนสไตล์ทำง่ายนิดเดียว!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น